นอกจากกฎหมายจะกำหนดให้ทุกบริษัทต้องมีการจัดทำบัญชีทุกเดือน และส่งงบการเงินไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง แล้ว ประโยชน์ของการทำบัญชีก็เพื่อให้บริษัทได้รู้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทมีผลประกอบการ กำไร หรือ ขาดทุน เท่าไหร่ บริษัทที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะมีการปิดบัญชีทุกเดือน นำผลประกอบการที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
การทำบัญชีจะยื่นภาษีให้ถูกต้องตามสมควร ถ้าเราทำบัญชีดี เสียภาษีถูกต้อง ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสรรพากร
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินใช้บัญชีและงบการเงินที่ SMEs ใช้แสดงต่อกรมสรรพากรในการยื่นภาษี เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินและขออนุมัติสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป
ในปี 2562 ธุรกิจที่จะมายื่นขอสินเชื่อจากธนาคารจะต้องใช้ “บัญชีเล่มเดียว” ซึ่งธนาคารจะต้องดูงบย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี นั่นหมายความว่า ธุรกิจต้องเร่งเข้าระบบบัญชีเล่มเดียวให้เร็วที่สุด
ผู้ประกอบการที่มีแผนขยายธุรกิจ ต้องรีบเข้าระบบบัญชีเล่มเดียว การทำบัญชีชุดเดียวจะช่วยให้ธุรกิจมีงบการเงินที่น่าเชื่อถือกับทุกหน่วยงาน เช่น กรมธุรกิจการค้า กรมสรรพากร และธนาคาร และประโยชน์สำคัญเมื่อ SMEs เข้าระบบบัญชีเล่มเดียวคือ การขอสินเชื่อจากธนาคารจะง่ายขึ้น และโอกาสเพิ่มวงเงินสินเชื่อมากขึ้น
ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจ ศึกษาเรื่องนี้ให้ละเอียด และจัดทำให้ถูกต้อง เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมาก
การมีระบบบัญชีที่ดี ข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน จะช่วยให้
- สามารถวิเคราะห์จุดคุ้มทุน กำหนดตัวเลขการขายสู้กับคู่แข่งได้
- ทำให้รู้ข้อมูลการขาย ประเภทสินค้า ช่วงเวลาขายที่ดี ทำให้วางแผนในการเจาะตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายได้ ยิ่งจัดทำบัญชีได้เร็ว โอกาสที่จะได้รับประโยชน์ก็เร็วขึ้น
เหตุผลหลักที่ผู้ประกอบการต้องจัดทำบัญชี
- เพื่อเป็นการบันทึกเหตุการณ์ทางการค้า
- เพื่อให้เจ้าของกิจการได้ทราบถึงความมั่งคั่งของกิจการ มีสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ อยู่เป็นจำนวนเท่าใด
- เพื่อเป็นปัจจัยหนึ่งประกอบการตัดสินใจในการลงทุนของนักธุรกิจและประกอบการตัดสินใจในการบริหารของเจ้าของกิจการ
- เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตและการสูญหายของสินทรัพย์
- เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมาย